แนวทางการพัฒนาความยั่งยืนแบบไทยเบฟ

Sustainability Story | 16 กันยายน 2563

ไทยเบฟ ผู้ผลิตเครื่องดื่มชั้นนำในประเทศไทย และในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ให้ความสำคัญในการพัฒนาธุรกิจด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อสิ่งที่ดีกว่าสำหรับผู้บริโภคในทุกช่วงเวลาของชีวิต  ได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (The Dow Jones Sustainability Indices-DJSI) ประเภทกลุ่มดัชนีโลก (World Index) และประเภทดัชนีตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market Index) ประจำปี 2562 และได้รับการจัดอันดับ 1 ในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่มต่อเนื่องเป็นปีที่ 2   ถือว่าเป็นบริษัทในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มของอาเซียนเพียงบริษัทเดียวที่ได้รับการประเมินให้เป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในอันดับที่สูงที่สุดของโลกต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน

การได้รับการจัดลำดับให้เป็นบริษัทอันดับ 1 ด้านความยั่งยืนโลกนี้ เกิดขึ้นจากการที่ไทยเบฟน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาใช้เป็นแนวทางปฏิบัติเพื่อพัฒนาความยั่งยืน พร้อมทั้งยึดถือเป้าหมาย การพัฒนาที่ยั่งยืน 17 ประการขององค์การสหประชาชาติมาเป็นเป้าหมายและใช้กำหนดยุทธศาสตร์ในการพัฒนาเพื่อให้เกิดการสร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าจากการเติบโตสู่ทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง  

ไทยเบฟน้อมนำกรอบแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการพัฒนาความยั่งยืนซึ่งประกอบไปด้วยคุณลักษณะ 3 ประการ คือ ความพอประมาณความมีเหตุผล และการมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดี ควบคู่ไปกับการสร้างความรู้และคุณธรรม ทำให้บริษัทสามารถ ดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ พร้อมทั้งนำพาองค์กรไปสู่ความก้าวหน้าอย่างสมดุลใน 4 มิติ คือ สิ่งแวดล้อม สังคม ศิลปวัฒนธรรม และเศรษฐกิจ   โดยให้ความสำคัญกับประเด็นสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับแรก เนื่องจากส่งผลกระทบมาสู่สังคม ซึ่งทั้งประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม ต่างก็ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท หากสิ่งแวดล้อมถูกทำลาย ชุมชนก็จะอยู่ไม่ได้ ส่งผลกระทบต่อสังคมในภาพรวม ทำให้ธุรกิจไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ดังนั้น สิ่งแวดล้อม ชุมชน สังคม จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีความเกื้อกูลกันและดำรงอยู่อย่างสอดคล้องสนับสนุนซึ่งกันและกัน

ด้วยพันธกิจที่มุ่งมั่นในการสร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าจากการเติบโต (CREATING & SHARING THE VALUE OF GROWTH) ไทยเบฟพร้อมที่จะมีส่วนร่วมและสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้ยั่งยืนไปพร้อมกับการเติบโตขององค์กรตลอดห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่ “ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ” โดยถ่ายทอดการสร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าใน 3 ประเด็นหลัก ดังนี้ 

  1. Water of Life   หรือ การสร้างชีวิตผ่านสายน้ำ  ไทยเบฟใส่ใจในการบริหารจัดการห่วงโซ่คุณค่าเพื่อให้ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีเหตุมีผล ผ่านโครงการที่สร้างสรรค์เน้นการสร้างต้นน้ำ ปลูกจิตสำนึกของการอนุรักษ์ต้นน้ำ ผืนป่าและธรรมชาติให้แก่ชุมชน ให้รู้จักการใช้น้ำแบบพอประมาณ การบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัยในกระบวนการผลิต รวมถึงโครงการคืนน้ำที่ปลอดภัยกลับสู่ระบบนิเวศ 
  2. Quality of Life หรือการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ด้วยการผลิตสินค้าและบริการอย่างมีเหตุและผล มีคุณภาพและมีความปลอดภัย สร้างภูมิคุ้มกันในการดำเนินธุรกิจด้วยกระบวน การผลิตที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างรู้คุณค่า การใช้หลัก 3R  (Reduce, Reuse, Recycle) การนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน 
  3. Sustainable Ways of Life หรือการสนับสนุนให้ชุมชนและเศรษฐกิจฐานรากมีความแข็งแกร่งและยั่งยืน โดยน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ไปประยุกต์ใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ผ่านโครงการที่ให้ความรู้คู่คุณธรรม ผลักดันให้เกิดความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกระดับ เพื่อให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกันในแต่ละชุมชน การสร้างอาชีพในท้องถิ่น สนับสนุนการศึกษาให้แก่เยาวชน รวมถึงการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่นและของชาติ โดยโครงการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของไทยเบฟนั้น ล้วนแล้วแต่สร้างแรงกระเพื่อม และส่งผลกระทบเชิงบวกในวงกว้างให้แก่ชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม 

 

ไทยเบฟ มุ่งหวังที่จะเป็นบริษัทชั้นนำที่มีส่วนในการผลักดันแนวปฎิบัติด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยมีเป้าหมายสูงสุดเพื่อสร้าง “ประโยชน์สุข” ให้แก่องค์กร แก่เครือข่ายธุรกิจ และแก่ประเทศชาติ อันจะนำมาซึ่งความภาคภูมิใจให้แก่สังคมไทยอย่างแท้จริง